ตลาดพุ่ง นักลงทุนมองภาคเทคในแง่ดี ความกลัวขึ้นดอกเบี้ยคลายลง

2024-04-29 | บทวิเคราะห์ตลาดการเงิน

ตลาดหุ้นพุ่งขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยถือเป็นผลการดำเนินงานรายสัปดาห์ที่แข็งแกร่งที่สุดในปีนี้ การพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วนี้ได้รับแรงผลักดันมาจากคำพูดเชิงบวกจากยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอย่าง Microsoft และ Alphabet (บริษัทแม่ของ Google) ซึ่งให้ความมั่นใจกับนักลงทุนว่าการลงทุนในปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของพวกเขามีมุมมองเป็นบวก 

ข้อมูลเงินเฟ้อที่นักลงทุนมองข้าม 

แม้จะเผชิญกับข้อมูลเงินเฟ้อที่สูงกว่าคาด แต่นักลงทุนก็ดูเหมือนไม่ได้ให้ความสำคัญกับข้อมูลนั้น เทรดเดอร์บางรายเตรียมพร้อมสำหรับตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงขึ้น โดยมีข้อบ่งชี้ล่าสุดว่า Federal Reserve กำลังพยายามที่จะควบคุมอัตราเงินเฟ้อ ดังนั้นตัวเลขเงินเฟ้อล่าสุดจึงไม่ทำให้เกิดความไม่แน่นอนในตลาดอย่างมีนัยสำคัญ 

พันธบัตรรัฐบาล ความผันผวนของค่าเงิน และราคาทองคำ 

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลแสดงผลการดำเนินงานแบบผสมผสาน โดยพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวทำได้ดีกว่าระยะสั้น อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีลดลงประมาณ 3 จุดมาอยู่ที่ 4.663% 

ดัชนี Bloomberg Dollar Spot แข็งค่าขึ้น ขณะที่เงินเยนของญี่ปุ่นอ่อนค่าลง 1.4% ใกล้ระดับ 158 เยนต่อดอลลาร์ การอ่อนค่าของเยนในครั้งนี้ทำให้นักลงทุนจับตาดูการแทรกแซงที่อาจเกิดขึ้นจากทางการญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิด 

นอกเหนือจากนี้ ราคาทองคำก็ขยับสูงขึ้น สะท้อนถึงความสนใจอย่างต่อเนื่องของนักลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางสภาวะตลาดที่ผันผวน   

สรุปการเคลื่อนไหวตลาดรายสัปดาห์ 

ตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนี S&P 500 ขยับขึ้น 2.7% ดัชนี Nasdaq Composite ที่เน้นภาคเทคโนโลยีเพิ่มขึ้น 4.2% และดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 0.7% 

และนี่คือราคาปิดตลาดของแต่ละดัชนีในวันศุกร์ที่ 26 เมษายน 2024

Index Last Change %Change 
DOW JONES 38,239.66 +153.86 +0.40% 
S&P 500 5,099.96 +51.54 +1.02% 
NASDAQ 15,927.90 +316.14 +2.03% 
U.S. 10Y 4.663%   
VIX 15.37 -0.34 -2.21% 

ภาพสะท้อนและแนวโน้มของตลาด 

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ตลาดกำลังเคลื่อนไหวด้วยความหวาดกลัวว่าจะมีการเทขายครั้งใหญ่ อย่างไรก็ตาม ตลาดกลับดีดตัวขึ้นอย่างเหนือความคาดหมาย การกลับตัวจากค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 100 วันของ S&P 500 บ่งชี้ว่าราคาตอนนี้อาจเป็นแนวรับได้ 

มีทฤษฎีหลักอยู่สองทฤษฎีที่สามารถอธิบายความยืดหยุ่นของตลาดในครั้งนี้ได้ ประการแรก ตลาดอาจมีการขายที่มากเกินไป ทำให้การกลับตัวอย่างรวดเร็วเป็นการตอบสนองตามธรรมชาติ ประการที่สอง ตลาดดูเหมือนจะไม่ค่อยกังวลกับอัตราเงินเฟ้อตราบใดที่ธนาคารกลางสหรัฐไม่ได้วางแผนขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม 

ข้อมูลการใช้จ่ายของผู้บริโภคยังบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจอาจเติบโตต่อไปแม้ว่าอัตราดอกเบี้ยจะสูงขึ้นก็ตาม นอกจากนี้ แรงกระตุ้นจากการประกาศของ Alphabet และ Microsoft เกี่ยวกับรายได้จาก AI ทำให้นักลงทุนอยากที่จะลงทุนเพิ่มขึ้น 

การเคลื่อนไหวของตลาดในอนาคต 

คำถามที่ยังไม่ได้รับคำตอบ: การขึ้นครั้งนี้จะดำเนินต่อไปหรือไม่? ซึ่งมันไม่แน่นอนเลย หากการรีบาวด์เป็นเพียงการปรับฐานจากการขายมากเกินไป แรงขายอาจกลับมาได้ อีกทางหนึ่ง หากโมเมนตัมของตลาดขับเคลื่อนโดย FOMO หรือการสนใจต่อข้อมูลเศรษฐกิจและการดำเนินการของ Fed แรงซื้ออาจกลับมาอีกครั้ง และอาจทดสอบจุดสูงสุดใหม่ได้ 

เนื่องจากการประชุมของ Fed กำลังใกล้เข้ามามากขึ้น จึงมีความไม่ชัดเจนว่าการแถลงการณ์ของพวกเขาจะส่งผลกระทบต่อตลาดอย่างไร อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ชัดเจนก็คือความผันผวนยังคงมีอยู่ ดังนั้น นักลงทุนควรเตรียมพร้อมรับการเคลื่อนไหวของตลาดอยู่เสมอ 

ที่มา CBOE, Bloomberg 

บทความนี้เขียนโดยเจมส์ โกเมส (James Gomes) ผู้เชี่ยวชาญในวงการการเงินมากกว่า 30 ปี และทำงานในธนาคารขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ ยาวนานกว่า 20 ปี

สารจาก D PrimeIconBrandElement

article-thumbnail

2025-08-29 | ข่าวสาร D Prime

D Prime ติดอันดับ 3 ของโลกด้านผู้ใช้งานแอคทีฟ

รายงาน Finance Magnates Q2 ปี 2568 จัดอันดับ D Prime ติดท็อป 3 ของโลก พร้อมปริมาณการเทรดเพิ่มขึ้น 20% สู่ระดับ 174 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ 

article-thumbnail

2025-08-14 | ข่าวสาร D Prime

ปริมาณการซื้อขายของ D Prime ในเดือนกรกฎาคม 2568 พุ่งแตะ 144 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ 

เดือนกรกฎาคม 2568 ถือเป็นเดือนสำคัญของ D Prime โดยมีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญและกิจกรรมการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ลูกค้าปรับกลยุทธ์เพื่อตอบสนองต่อสภาวะตลาดที่ผันผวนและนโยบายเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงในสินทรัพย์หลักหลายประเภท  ภาพรวมปริมาณการซื้อขายเดือนกรกฎาคม 2568  จากข้อมูลพบว่าปริมาณการซื้อขายรวมของ D Prime ในเดือนกรกฎาคมอยู่ที่ 144.07 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 12.07% เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน และปริมาณซื้อขายเฉลี่ยต่อวันก็เพิ่มขึ้น 8.45% แสดงถึงการมีส่วนร่วมของลูกค้าที่มากขึ้น  ปัจจัยขับเคลื่อนตลาด: ความไม่แน่นอนและความผันผวน  ตลาดในเดือนกรกฎาคมได้รับแรงกดดันจากความไม่แน่นอนด้านการเจรจาการค้าและนโยบายภาษีศุลกากร รวมถึงความตึงเครียดทางการเมืองที่กระทบต่อความเป็นอิสระของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) การคาดการณ์เกี่ยวกับเส้นตายการขึ้นภาษีและข่าวลือเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งประธาน Fed ได้เพิ่มความระมัดระวังต่อความเสี่ยงในตลาด  ภาวะนี้ทำให้ราคาทองคำแท่งในตลาดสปอตพุ่งขึ้นแตะ 3,400 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ กระตุ้นการซื้อขายทองคำอย่างคึกคักท่ามกลางความผันผวน  ในขณะเดียวกัน การตัดสินใจของประธานาธิบดีทรัมป์ในการเก็บภาษีศุลกากร 50% สำหรับผลิตภัณฑ์ทองแดง (ยกเว้นวัตถุดิบ) ทำให้ราคาทองแดงผันผวนอย่างรุนแรง ส่งผลให้การซื้อขายฟิวเจอร์สทองแดงพุ่งขึ้นอย่างมาก  ความยืดหยุ่นและโอกาสท่ามกลางความซับซ้อน  แม้จะมีความท้าทายเหล่านี้ D Prime ยังคงมุ่งมั่นที่จะให้บริการที่เป็นมืออาชีพและมีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสในตลาดได้อย่างเต็มที่  ปริมาณการซื้อขายในเดือนกรกฎาคมยังเพิ่มขึ้น 12.61% เมื่อเทียบกับปีก่อน ตอกย้ำถึงความยืดหยุ่นของเราในสภาพแวดล้อมตลาดโลกที่ซับซ้อน  สินค้ายอดนิยมของนักลงทุนในเดือนกรกฎาคม  ความนิยมของนักลงทุนยังคงแข็งแกร่ง โดย XAU/USD, EUR/USD, […]

article-thumbnail

2025-08-11 | ข่าวสาร D Prime

บทใหม่เริ่มต้นแล้ว: ยินดีต้อนรับสู่ D Prime โฉมใหม่ 

หลังจากกว่าทศวรรษแห่งการเติบโต การเปลี่ยนแปลง และนวัตกรรม Doo Prime ได้ก้าวเข้าสู่บทใหม่ที่น่าตื่นเต้น เปิดตัว D Prime