รายงานปริมาณการซื้อขายของ Doo Prime ประจำเดือนกันยายน 2567 

2024-10-15 | รายงานปริมาณการซื้อขาย

รายงานปริมาณการซื้อขายของ Doo Prime ประจำเดือนกันยายน 2567 

รายงานปริมาณการซื้อขายของ Doo Prime ประจำเดือนกันยายน 2567 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงกิจกรรมการซื้อขายที่แข็งแกร่งและประสิทธิภาพที่มั่นคงบนแพลตฟอร์มของเรา 

ภาพรวมปริมาณการซื้อขายเดือนกันยายน 2567 

  • ปริมาณการซื้อขายทั้งหมด: 128.66 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ 
  • ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด: XAU/USD, EUR/USD, USD/JPY 
  • XAU/USD มีปริมาณการซื้อขายสูงสุดที่ 103.23 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ 
  • HSI_2409 มีการเพิ่มขึ้นมากที่สุด โดยเพิ่มขึ้น 0.17 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 138.16% 

จากรายงานระบุว่า ปริมาณการซื้อขายทั้งหมดของ Doo Prime ในเดือนกันยายน 2567 มีมูลค่า 128.66 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 17.58% จากเดือนก่อนหน้า นอกจากนี้ ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน (ADV) ในเดือนกันยายนอยู่ที่ 4.29 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งลดลง 14.83% เมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคม 

รายงานปริมาณการซื้อขายของ Doo Prime ประจำเดือนกันยายน 2567 

เมื่อวันที่ 18 กันยายน ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ได้ดำเนินการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี โดยลดอัตราดอกเบี้ยเงินกองทุนของรัฐบาลกลางลง 50 จุดพื้นฐาน มาอยู่ที่ 4.75%-5% การดำเนินการครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อลดแรงกดดันทางเศรษฐกิจในสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม ตลาดได้ส่งสัญญาณว่านี่อาจเป็นเครื่องบ่งชี้ว่าสหรัฐฯ กำลังเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอลง 

จากเหตุการณ์นี้ ความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจในอนาคตเพิ่มมากขึ้น และเกิดข้อสงสัยว่าธนาคารกลางจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมหรือไม่ รวมถึงความสามารถในการทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวอย่างมีเสถียรภาพ 

ด้วยเหตุนี้ นักลงทุนจึงเลือกที่จะ “รอดูสถานการณ์” ในเดือนกันยายน ส่งผลให้กิจกรรมการซื้อขายลดลง ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน (ADV) ของ Doo Prime ในเดือนกันยายนก็ลดลงเมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคม ซึ่งทำให้ปริมาณการซื้อขายรวมลดลงตามไปด้วย 

อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ปริมาณการซื้อขายทั้งหมดของ Doo Prime มีมูลค่าอยู่ที่ 983.30 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้น 38.36% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว 

รายงานปริมาณการซื้อขายของ Doo Prime ประจำเดือนกันยายน 2567 

จากข้อมูลที่บันทึกไว้ คู่เงิน XAU/USD, EUR/USD และ USD/JPY เป็นสินทรัพย์ที่นักลงทุนเลือกมากที่สุด โดยคิดเป็น 90.98% ของปริมาณการซื้อขายทั้งหมดในเดือนกันยายน ในจำนวนนี้ XAU/USD มีปริมาณการซื้อขายสูงสุดในเดือนนี้ที่ 103.23 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วน EUR/USD และ USD/JPY มีปริมาณการซื้อขายรวมกันอยู่ที่ 13.83 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ 

นอกจากนี้ HSI_2409 มีการเติบโตของปริมาณการซื้อขายรายเดือนมากที่สุด โดยเพิ่มขึ้น 0.17 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 138.16% เมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคม 

ในฐานะโบรกเกอร์ออนไลน์ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง เราแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในปริมาณการซื้อขายอย่างสม่ำเสมอ ด้วยแพลตฟอร์มการซื้อขายที่มีประสิทธิภาพ พาร์ทเนอร์ในอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่ง และทีมเทคนิคที่มีประสบการณ์ เรามุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์การเทรดที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าของเราอยู่เสมอ 


การเปิดเผยข้อมูลความเสี่ยง   
หลักทรัพย์, ฟิวเจอร์ส, CFDs และผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่น ๆ มีความเสี่ยงสูงเนื่องจากความผันผวนของมูลค่าและราคาของตราสารทางการเงินพื้นฐาน อันเนื่องมาจากการเคลื่อนไหวของตลาดที่ไม่เอื้ออำนวยและไม่สามารถคาดเดาได้ อาจทำให้เกิดการขาดทุนจำนวนมากเกินกว่าเงินลงทุนเริ่มต้นของคุณภายในระยะเวลาอันสั้น 
กรุณาตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายตราสารทางการเงินแต่ละประเภทอย่างครบถ้วนก่อนที่จะทำธุรกรรมใด ๆ กับเรา หากคุณไม่เข้าใจความเสี่ยงที่ได้อธิบายไว้ คุณควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อขอคำแนะนำก่อนตัดสินใจลงทุน 

ข้อความปฏิเสธการรับผิดชอบ 
ข้อมูลที่ปรากฏในบล็อกนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำในการลงทุน คำแนะนำ ข้อเสนอ หรือการเชิญชวนให้ซื้อหรือขายตราสารทางการเงินใด ๆ ข้อมูลนี้ไม่ได้พิจารณาถึงวัตถุประสงค์ในการลงทุนหรือสถานการณ์ทางการเงินเฉพาะของผู้เทรดแต่ละราย การอ้างอิงถึงผลการดำเนินงานในอดีตไม่อาจนำมาใช้เป็นตัวชี้วัดที่น่าเชื่อถือสำหรับผลการดำเนินงานในอนาคตได้ Doo Prime และบริษัทในเครือไม่ได้ให้การรับรองหรือการรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับความถูกต้องหรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลนี้ และไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายใด ๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ข้อมูลนี้ หรือจากการลงทุนที่ทำขึ้นบนพื้นฐานของข้อมูลดังกล่าว 

สารจาก D PrimeIconBrandElement

article-thumbnail

2025-11-18 | ข่าวสาร D Prime

11 ปีแห่งความแข็งแกร่ง หนึ่งก้าวเหนือสิบ ก้าวไปด้วยกัน 

D Prime ฉลองครบรอบ 11 ปีแห่งการเติบโตและพัฒนา พร้อมเทคโนโลยีชาญฉลาด การขยายสู่ระดับโลก และรางวัลพิเศษเพื่อยกระดับนักเทรดทุกคน.

article-thumbnail

2025-11-18 | ข่าวสาร D Prime

D Prime ทำสถิติยอดเทรดสูงสุดในเดือนตุลาคม 2025

D Prime รายงานปริมาณการเทรดเดือนตุลาคม 2025 รวม 296.02 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 55% ต่อเดือน นำโดยทองคำและดัชนีที่เทรดคึกคัก 

article-thumbnail

2025-11-13 | วิเคราะห์ตลาดเชิงลึก

ทำไมตลาดอาจพุ่งแรง เมื่อสหรัฐฯ ยุติภาวะชัตดาวน์ 

ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดการเงินทั่วโลกแทบไม่มีแรงขับเคลื่อน ภาวะชัตดาวน์ของรัฐบาลสหรัฐฯ ทำให้ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญหลายรายการถูกระงับ รวมถึงรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตร ที่นักลงทุนรอคอย ตอนนี้ โอกาสในการเปิดทำการของหน่วยงานรัฐอีกครั้งเพิ่มสูงขึ้น เทรดเดอร์ทั่วโลกจึงกำลังจับตา “การปล่อยข้อมูลครั้งใหญ่” ที่อาจเกิดขึ้นพร้อมกันหลายชุด ซึ่งอาจสร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่ว ตั้งแต่ราคาทองคำไปจนถึงค่าเงินดอลลาร์ ไม่มีรายงาน NFP ไม่มีข้อมูล CPI ไม่มีแนวทางจากภาครัฐ มีเพียงความเงียบ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไม “ข้อมูลรอบถัดไป” อาจกลายเป็นการประกาศที่ดังที่สุดของปีนี้  นักลงทุน “ขาจร” ในทองคำ ถูกเทขายออกจากตลาดแล้ว  มาดูกราฟจาก BofA Global Research กัน:  อมูลเผยให้เห็นว่า มีการไหลออกจากกองทุนทองคำเป็นมูลค่ารวมกว่า 59 พันล้านดอลลาร์ ภายในระยะเวลาเพียง 4 เดือนที่ผ่านมา ในภาษาของนักเทรด ช่วงนี้คือเวลาที่ “นักลงทุนขาจร” หรือกลุ่มนักเก็งกำไรระยะสั้นที่ตื่นตระหนกทุกครั้งเมื่อราคาย่อตัว เริ่มทยอยออกจากตลาด  ในทางกลับกัน นี่มักเป็นช่วงเวลาที่นักลงทุนมืออาชีพเริ่มกลับเข้ามาซื้อสะสมอีกครั้ง และสิ่งที่อาจเกิดขึ้นตอนนี้คือ ราคาทองคำเริ่มทรงตัวและมีแนวโน้มขยับขึ้นอีกครั้ง เมื่อความคาดหวังต่อข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอกลับมาอยู่ในจุดสนใจของตลาด  ทำไมข้อมูลการจ้างงานที่อ่อนแอ อาจเป็นผลดีต่อทองคำและหุ้น  มาดูกันว่าตลาดกำลังคิดอะไรอยู่:  โดยสรุปแล้ว ข่าวร้ายอาจกลายเป็น “ข่าวดี” อีกครั้งสำหรับตลาด  เมื่อไหร่ข้อมูลที่ถูกเลื่อนจะถูกเผยแพร่?  เมื่อรัฐบาลกลับมาเปิดทำการ หน่วยงานกลางจะเร่งดำเนินการเพื่ออัปเดตข้อมูลที่ค้างไว้ มีข้อมูลเศรษฐกิจสะสมราว 6 สัปดาห์ ที่เตรียมจะถูกเปิดเผยออกมา  รายงานการจ้างงานเดือนกันยายน ซึ่งเดิมกำหนดเผยแพร่วันที่ 3 ตุลาคม คาดว่าจะออกมา ภายในไม่กี่วันหลังการเปิดหน่วยงานรัฐ ซึ่งจะเป็นข้อมูลแรกที่สะท้อนภาพตลาดแรงงานย้อนหลังถึงช่วงปลายฤดูร้อน  แต่ยังไม่จบแค่นั้น กระทรวงแรงงาน ยังคงล่าช้าในส่วนของข้อมูลการจ้างงานและเงินเฟ้อประจำเดือนตุลาคม ซึ่งหมายความว่ารายงาน NFP ถัดไปอาจเลื่อนออกไปอีกราว 2 สัปดาห์  ข้อมูลอื่นๆ เช่น อัตราว่างงานและดัชนีราคาผู้บริโภค ก็อาจล่าช้าเช่นกัน ซึ่งอาจทำให้ เฟดต้องประชุมวันที่ 10 ธันวาคม โดยไม่มีข้อมูลเงินเฟ้อใหม่ในมือ  สรุปคือ เมื่อวอชิงตันกลับมาเปิดทำการอย่างเป็นทางการ คาดว่าจะมี “พายุข้อมูลเศรษฐกิจชุดใหญ่” ปล่อยออกมาพร้อมกัน ซึ่งอาจสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อทั้งตลาดหุ้นและทองคำได้อย่างรุนแรง  ความกลัวสุดขีด คือสัญญาณตรงข้ามในตลาด  ตามดัชนี Fear & Greed Index ของ CNN ตลาดในตอนนี้อยู่ในโซน “Extreme Fear” โดยมีคะแนนเพียง 21 จาก 100  ในทางประวัติศาสตร์ ระดับความกลัวสุดขีดมักถูกมองว่าเป็น สัญญาณกลับตัวของตลาด เพราะมักเกิดขึ้นในช่วงที่แรงขายเริ่มหมดและนักลงทุนมืออาชีพเริ่มทยอยกลับเข้ามาซื้อสะสม อย่างที่ Warren Buffett เคยกล่าวไว้ว่า “จงกลัวเมื่อคนอื่นโลภ และจงโลภเมื่อคนอื่นกลัว”  ดังนั้น เมื่อบรรยากาศในตลาดอยู่ในภาวะสิ้นหวังแบบนี้ ตัวกระตุ้นทางบวกเพียงเล็กน้อย เช่น ข้อมูลการจ้างงานที่ดีขึ้นหรือสัญญาณผ่อนคลายจากเฟด ก็อาจจุดชนวนให้เกิด แรงดีดตัวของตลาดอย่างรุนแรง ได้ทันทีหลังสิ้นสุดช่วงที่ไม่มีข้อมูลรายงาน  ตลาดขาดข้อมูลมานานเกินไปแล้ว เมื่อไม่มีข้อมูล NFP ตลาดจึงต้องพึ่งพาเพียงการคาดเดา (speculation) นักลงทุนไม่สามารถประเมินสิ่งที่วัดไม่ได้ ทำให้ความผันผวนในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาถูกกดทับไว้ เมื่อช่วง “ความมืดของข้อมูล” สิ้นสุดลง ตลาดอาจเผชิญความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ในหลายด้าน เช่น:  และเมื่อชุดข้อมูลแรงงานชุดแรกถูกเปิดเผย อัลกอริทึมเทรดอัตโนมัติอาจเป็นตัวจุดชนวนการเคลื่อนไหวระลอกใหม่ ก่อนที่ตลาดจะเข้าสู่จุดสมดุลอีกครั้ง  ทำไมรอบนี้อาจแรงกว่าที่คิด  เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับเพียงแค่รายงาน NFP เดียวเท่านั้น แต่เกี่ยวกับ การสะสมสถานะในตลาดตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ที่กำลังจะถูกปลดปล่อยออกมาพร้อมกันในครั้งเดียว หากข้อมูลเศรษฐกิจของเดือนกันยายน ตุลาคม และพฤศจิกายน ถูกเปิดเผยในเวลาใกล้เคียงกัน นั่นหมายความว่านักเทรดจะได้เผชิญกับ “ความจริงของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในรอบสามเดือน” ภายในสัปดาห์เดียว  ซึ่งนี่แหละ คือคำจำกัดความของคำว่า ตัวกระตุ้นความผันผวน อย่างแท้จริง  ภาพรวมความเป็นไปได้ของตลาด  สถานการณ์  ผลลัพธ์จากรายงาน NFP  การเติบโตของการจ้างงานชะลอตัว  ยืนยันภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว  การเติบโตของการจ้างงานแข็งแกร่ง  ทำให้การลดดอกเบี้ยล่าช้าออกไป  ข้อมูลผสม  ทำให้แนวโน้มการตัดสินใจของเฟดยังไม่ชัดเจน  ไม่ว่าจะเกิดสถานการณ์ใดขึ้น ปริมาณการซื้อขาย จะพุ่งสูงขึ้นอย่างชัดเจน และสินทรัพย์ที่ถือว่าเป็น “สินทรัพย์ปลอดภัย” อย่างทองคำและเงิน อาจกลับมาเป็นประเด็นใหญ่ในตลาดอีกครั้ง  ความเงียบก่อนพายุข้อมูลถาโถม  การไหลออกของเงินจากทองคำยังคงสูงสุด ตลาดหุ้นเต็มไปด้วยความกลัวสุดขีด และคลื่นข้อมูลเศรษฐกิจที่ถูกเลื่อนกำลังจะถูกเผยออกมาในเร็วๆ นี้  กราฟสะท้อนภาพได้ชัดเจน “นักลงทุนสายท่องเที่ยว” ได้ออกจากทองไปแล้ว แต่เงินทุนใหญ่เริ่มเข้ามาจับจังหวะสำหรับการรีบาวด์ เมื่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังจะเผชิญข้อมูลที่ล่าช้า และเฟดเตรียมพร้อมเปลี่ยนนโยบายทันทีหากเห็นสัญญาณอ่อนแรง สัญญาณพร้อมแล้วสำหรับการเบรกเอาต์ของทองคำและตลาดหุ้น เมื่อวอชิงตันกลับมาเปิดทำการอีกครั้ง  ดังนั้น เตรียมตัวให้พร้อม เพราะเมื่อการปิดหน่วยงานสิ้นสุดลง พายุข้อมูลจะเริ่มต้น และตลาดจะไม่เงียบอีกต่อไป