S&P 500 สูงขึ้นจากความเห็นเฟด นักวิเคราะห์เตือนอาจเกิด Pullback

2024-03-26 | บทวิเคราะห์ตลาดการเงิน

ราคาประจำสัปดาห์ที่ผ่านมาของ S&P 500 ปิดตัวได้อย่างน่าประทับใจที่สุดของปี 2024 โดยทำลายสถิติการลงติดต่อกันสองสัปดาห์ที่ผ่านมาได้อย่างน่าทึ่ง 

การฟื้นตัวของวอลล์สตรีทได้รับแรงหนุนมาจากคำมั่นของธนาคารกลางสหรัฐที่ย้ำว่าจะดำเนินการลดอัตราดอกเบี้ยสามครั้งตลอดทั้งปี ซึ่งช่วยลดความกังวลของนักลงทุน 

ท่ามกลางความไม่แน่นอนที่ยืดเยื้อ การตอบสนองอย่างใจเย็นของประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ ต่อแรงกดดันด้านเงินเฟ้อได้ช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นต่อตลาด 

แนวโน้มเชิงบวกและการเก็งกำไร 

แม้ว่าตลาดหุ้นในวันศุกร์จะชะลอตัวลงเล็กน้อย แต่แนวโน้มโดยรวมของสัปดาห์นี้ยังคงเป็นบวกอย่างปฏิเสธไม่ได้ 

การเก็งกำไรต่อการลดอัตราดอกเบี้ยที่อาจเกิดขึ้นได้ในต้นเดือนมิถุนายนได้กระตุ้นให้แรงซื้อในตลาด ส่งผลให้เป็นสัปดาห์ที่ S&P 500 พุ่งขึ้นมากกว่า 2% 

ภาวะกระทิงที่แข็งแรงนี้กระตุ้นให้นักวิเคราะห์ปรับเปลี่ยนการคาดการณ์ และจุดประกายให้เกิดการพูดคุยเกี่ยวกับโอกาศในการสะสมของราคาหรือการ Pullback ในระยะสั้น 

David Lefkowitz จาก UBS Global Wealth Management เน้นว่า เมื่อพิจารณาจากความเชื่อมั่นและตำแหน่งของราคาที่อยู่ในระดับที่สูง การ Pullback เล็กน้อยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าก็เป็นไปได้ สถานการณ์ดังกล่าวอาจเปิดโอกาสที่น่าสนใจให้กับนักลงทุนในการซื้อหุ้นเพิ่มเติม 

อิทธิพลของธนาคารกลางสหรัฐ 

เนื่องจากข้อมูลทางเศรษฐกิจยังคงผสมผสาน นักลงทุนควรติดตามแถลงการณ์จากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐอย่างใกล้ชิด 

ความคิดเห็นของพาวเวลล์ในงาน “Fed Listens” ไม่ได้พูดถึงนโยบายการเงินอย่างชัดเจน ในขณะเดียวกัน Michael Barr รองประธานฝ่ายกำกับดูแลของ Fed ได้บอกเป็นนัยถึงการปรับเปลี่ยนข้อเสนอซึ่งมุ่งเป้าไปที่การเพิ่มเงินทุนสำหรับผู้ปล่อยกู้ 

ผลการดำเนินงานของตลาด 

S&P 500 ปิดต่ำกว่าราคา 5,235 ท่ามกลางปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง ซึ่งสะท้อนถึงความยืดหยุ่นและความไม่แน่นอนที่ซ่อนอยู่ในภูมิทัศน์ของตลาดปัจจุบัน 

และนี่คือราคาปิดตลาดของแต่ละดัชนีในวันศุกร์ที่ 22 มีนาคม 2567

Index Last Change %Change 
DOW JONES 39,475.90 -305.47 -0.77% 
S&P 500 5,234.18 -7.35 -0.14% 
NASDAQ 16,428.82 +26.98 +0.16% 
U.S. 10Y 4.198%   
VIX 13.06 +0.14 1.08% 

ความเชื่อมั่นของตลาด 

ตามที่คาดไว้ ตลาดเพิกเฉยต่อความคิดเห็นด้านลบใดๆ ของ Powell และเน้นมองไปทางด้านบวกเท่านั้น ส่งผลให้ S&P ขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้ง 

อย่างไรก็ตาม การขึ้นของตลาดครั้งล่าสุดมีความแข็งแกร่งน้อยกว่าครั้งก่อน ซึ่งบ่งชี้ว่าอาจเกิดการหยุดชั่วคราว หรือการกลับตัวเกิดขึ้น 

กองทุนหุ้นสหรัฐเสียประมาณ 22 พันล้านดอลลาร์ในสัปดาห์จนถึงวันพุธ ซึ่งมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2565 ตามบันทึกจาก Bank of America Corp. โดยอ้างถึงข้อมูล EPFR Global 

แนวโน้มนี้ยังเป็นการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจากสัปดาห์ก่อน เมื่อหุ้นทำให้เกิดเงินไหลเข้าสูงเป็นประวัติการณ์ 

การประมาณการอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ 

Raphael Bostic ประธานธนาคารกลางสหรัฐแห่งแอตแลนตา คาดการณ์ว่าในปีนี้จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียว ซึ่งเขาคาดการณ์ว่าจะเกิดขึ้นช้ากว่าที่เขาคาดไว้ในตอนแรก 

ก่อนหน้านี้ Raphael Bostic เคยเสนอแนะว่าเฟดควรจะลดอัตราดอกเบี้ยลงสองครั้งในปี 2024 โดยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในฤดูร้อนนี้ 

วัฏจักรอัตราดอกเบี้ยของเฟดนับตั้งแต่ทศวรรษ 1970 ได้เผยให้เห็นว่า โดยทั่วไปแล้ว นักลงทุนมีความกลัวต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกมากกว่าการหยุดชั่วคราว ตามที่ Ryan Grabinski จาก Strategas Securities กล่าว 

โดยเฉลี่ยแล้ว S&P 500 เพิ่มขึ้นมากกว่า 5% ในช่วง 100 วันระหว่างการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดครั้งล่าสุดและการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรก อย่างไรก็ตาม จุดต่ำสุดในตลาดที่กว้างขึ้นนั้นลดลงเกิน 23% ในช่วง 200 วันหลังจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในชุดข้อมูล 

นี่คือสิ่งที่ต้องพิจารณาก่อนที่จะเข้าลงทุนในตลาดกระทิง 

ที่มา CBOE, Bloomberg 

บทความนี้เขียนโดยเจมส์ โกเมส (James Gomes) ผู้เชี่ยวชาญในวงการการเงินมากกว่า 30 ปี และทำงานในธนาคารขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ ยาวนานกว่า 20 ปี

สารจาก D PrimeIconBrandElement

article-thumbnail

2025-08-29 | ข่าวสาร D Prime

D Prime ติดอันดับ 3 ของโลกด้านผู้ใช้งานแอคทีฟ

รายงาน Finance Magnates Q2 ปี 2568 จัดอันดับ D Prime ติดท็อป 3 ของโลก พร้อมปริมาณการเทรดเพิ่มขึ้น 20% สู่ระดับ 174 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ 

article-thumbnail

2025-08-14 | ข่าวสาร D Prime

ปริมาณการซื้อขายของ D Prime ในเดือนกรกฎาคม 2568 พุ่งแตะ 144 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ 

เดือนกรกฎาคม 2568 ถือเป็นเดือนสำคัญของ D Prime โดยมีการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญและกิจกรรมการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ลูกค้าปรับกลยุทธ์เพื่อตอบสนองต่อสภาวะตลาดที่ผันผวนและนโยบายเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงในสินทรัพย์หลักหลายประเภท  ภาพรวมปริมาณการซื้อขายเดือนกรกฎาคม 2568  จากข้อมูลพบว่าปริมาณการซื้อขายรวมของ D Prime ในเดือนกรกฎาคมอยู่ที่ 144.07 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 12.07% เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน และปริมาณซื้อขายเฉลี่ยต่อวันก็เพิ่มขึ้น 8.45% แสดงถึงการมีส่วนร่วมของลูกค้าที่มากขึ้น  ปัจจัยขับเคลื่อนตลาด: ความไม่แน่นอนและความผันผวน  ตลาดในเดือนกรกฎาคมได้รับแรงกดดันจากความไม่แน่นอนด้านการเจรจาการค้าและนโยบายภาษีศุลกากร รวมถึงความตึงเครียดทางการเมืองที่กระทบต่อความเป็นอิสระของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) การคาดการณ์เกี่ยวกับเส้นตายการขึ้นภาษีและข่าวลือเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งประธาน Fed ได้เพิ่มความระมัดระวังต่อความเสี่ยงในตลาด  ภาวะนี้ทำให้ราคาทองคำแท่งในตลาดสปอตพุ่งขึ้นแตะ 3,400 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ กระตุ้นการซื้อขายทองคำอย่างคึกคักท่ามกลางความผันผวน  ในขณะเดียวกัน การตัดสินใจของประธานาธิบดีทรัมป์ในการเก็บภาษีศุลกากร 50% สำหรับผลิตภัณฑ์ทองแดง (ยกเว้นวัตถุดิบ) ทำให้ราคาทองแดงผันผวนอย่างรุนแรง ส่งผลให้การซื้อขายฟิวเจอร์สทองแดงพุ่งขึ้นอย่างมาก  ความยืดหยุ่นและโอกาสท่ามกลางความซับซ้อน  แม้จะมีความท้าทายเหล่านี้ D Prime ยังคงมุ่งมั่นที่จะให้บริการที่เป็นมืออาชีพและมีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสในตลาดได้อย่างเต็มที่  ปริมาณการซื้อขายในเดือนกรกฎาคมยังเพิ่มขึ้น 12.61% เมื่อเทียบกับปีก่อน ตอกย้ำถึงความยืดหยุ่นของเราในสภาพแวดล้อมตลาดโลกที่ซับซ้อน  สินค้ายอดนิยมของนักลงทุนในเดือนกรกฎาคม  ความนิยมของนักลงทุนยังคงแข็งแกร่ง โดย XAU/USD, EUR/USD, […]

article-thumbnail

2025-08-11 | ข่าวสาร D Prime

บทใหม่เริ่มต้นแล้ว: ยินดีต้อนรับสู่ D Prime โฉมใหม่ 

หลังจากกว่าทศวรรษแห่งการเติบโต การเปลี่ยนแปลง และนวัตกรรม Doo Prime ได้ก้าวเข้าสู่บทใหม่ที่น่าตื่นเต้น เปิดตัว D Prime